birdtoday

Please or Register to create posts and topics.

ไซเตสห้ามการค้า นกแก้วแอฟริกันเกรย์

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่า ที่ประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส (CITES: Convention on International Trade in Endangered Species)  ครั้งที่ 17 (CITES CoP17) ลงคะแนนลับเห็นชอบให้บรรจุ 'นกแก้วแอฟริกันเกรย์' เข้าอยู่ในรายชื่อสัตว์ในภาคผนวก 1 (Appendix I) ซึ่งห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนในทุกกรณีเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ ทั้งตัวนกและชิ้นส่วนร่างกาย

นกแก้วแอฟริกันเกรย์ เป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดสัตว์เลี้ยง เนื่องจากลักษณะอันโดดเด่นในการเลียนเสียงมนุษย์ ในอดีตประชากรของนกแก้วแอฟริกันเกรย์แพร่หลายทั่วไปในถิ่นอาศัยตามธรรมชาติในแอฟริกากลางและตะวันตก แต่ด้วยปัจจัยการสูญเสียถิ่นอาศัยและการค้าแบบผิดกฎหมายและไร้การควบคุมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มสูงในตลาดสัตว์เลี้ยง ทำให้ปริมาณนกในธรรมชาติลดลงอย่างมาก ปัจจุบันนกแก้วแอฟริกันเกรย์ส่วนใหญ่มาจากการเพาะเลี้ยงในที่คุมขังก่อนถูกส่งไปขายเป็นสัตว์เลี้ยง โดยก่อนหน้านี้นกแก้วแอฟริกันเกรย์เคยได้รับการบรรจุไว้ในภาคผนวก 2 (Appendix II) เมื่อปี 2524 ซึ่งเป็นเพียงการจำกัดการค้า

การประชุมไซเตสครั้งนี้มีขึ้นที่เมืองโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 23 ก.ย. - 5 ต.ค. โดยก่อนหน้านี้ได้บรรจุตัวนิ่ม ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกล่ามากที่สุดในโลก เข้าไว้ในภาคผนวก 1 ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ในการประชุมยังมีบทสรุปที่เป็นความคืบหน้าสำคัญในส่วนของสิงโต ด้วยการห้ามไม่ให้มีการค้ากระดูก ฟัน และอุ้งตีน ของสิงโตป่า แต่มีข้อยกเว้นสำหรับสิงโตที่ถูกเพาะเลี้ยงในที่คุมขัง ซึ่งนักเคลื่อนไหวกังวลว่าจุดนี้จะกลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้มีการล่าเพื่อนำกระดูกสิงโตป่ามาสวมรอยเข้าสู่ตลาด กระดูกสิงโตเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากในเอเชีย สำหรับใช้เป็นส่วนประกอบตำรับยาดั้งเดิม และถูกใช้เพื่อทดแทนกระดูกเสือที่หายากกว่า

ทั้งนี้ การหารือในที่ประชุมเมื่อวันอาทิตย์ ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ กำจัดการค้างาช้างภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การค้างาช้างระหว่างประเทศ โดยมติดังกล่าวนี้ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เนื่องจากอนุสัญญาไซเตสเป็นการควบคุมเฉพาะการค้า 'ระหว่างประเทศ' โดยการประชุมที่จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธนี้ จะมีการพิจารณาเรื่องความพยายามของสวาซิแลนด์ในการค้างาช้าง และจะมีการพิจารณาเพิ่มมาตรการคุ้มครองสิงโต ฉลาม และปลากระเบน.

JNP Aviary , 8/36 North Rd. Pattaya Thailand พัทยาเหนือ ชลบุรี Call 0816876575 โทร 0816876575